อาการที่เราสามารถพบเจอได้ในกลุ่มของผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานนั้น อาจได้แก่ มีความรู้สึกอยากอาหารไม่ว่าจะอยากกินนู่นกินนี่ หรือหิวบ่อยจนผิดปกติ , มีอาการกระหายน้ำบ่อย ซึ่งอาจจะสืบเนื่องมาจากมีการปัสสาวะปริมาณที่มากและบ่อยครั้ง อีกทั้งอาจมีอาการอื่นๆ ประกอบร่วมด้วย อาทิ
- มีผิวที่แห้ง และอาจเกิดอาการคันบริเวณผิวบ่อยครั้ง
- ตาแห้ง โดยอาจเกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ หรือไม่เคยเป็นมา
- มีอาการอ่อนเพลียง่าย ทั้งที่เมื่อก่อนไม่เคยเป็น
- เหนื่อยล้า รู้สึกไม่กระชุ่มกระชวย หรืออยากนอนอย่างเดียว
- มีอาการชาที่บริเวณเท้า หรือรู้สึกเจ็บแปลบๆ ที่บริเวณปลายเท้า หรือที่เท้า
- น้ำหนักตัวลดลงมากผิดปกติ ในบางรายมีการซูบผอมจนดูแล้วผิดปกติไปเลย และก็ไม่สามารถที่จะหาสาเหตุได้ด้วย
- เวลาที่มีแผลที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นส่วนไหนของร่างกายยิ่งโดยเฉพาะส่วนที่เป็นที่เท้าแล้ว มักจะต้องใช้ระยะเวลานานกว่าปกติในการหายของแผล
- มีอาการเกี่ยวกับสายตาอาจจะมีอาการตาพร่ามัวมองไม่ชัด โดยสิ่งที่สังเกตได้ง่ายก็คืออาการดังกล่าวไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ใครที่มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานบ้าง
โดยปกติแล้วโรคเบาหวานสามารถที่จะเกิดขึ้นได้กับทุกคน และอีกสิ่งหนึ่งที่พบเจอได้บ่อยก็คือ การที่พี่น้องหรือญาติของเรา เคยเป็นโรคเบาหวานมาก่อน
ซึ่งในกรณีนี้ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสที่เราจะเป็นโรคเบาหวานได้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพ่อของเรา หรือแม่ของเรา หรืออาจจะเป็นพี่น้องของพ่อหรือพี่น้องของแม่ก็ตาม
และในรายที่พ่อหรือแม่เราเป็นอยู่ โอกาสที่ลูกจะเป็นก็จะเพิ่มสูงขึ้นถึง 50 เปอร์เซ็นต์
นอกจากโอกาสที่เราจะเป็นได้เนื่องจากทางพันธุกรรมแล้ว สิ่งที่เป็นปัจจัยหลักๆก็คือพฤติกรรมในการใช้ชีวิตของเรา เพราะปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลโดยตรงที่ทำให้เราเป็นโรคเบาหวานได้ ต่อให้คนในครอบครัวของเราไม่เคยเป็นมาก่อนก็ตาม ไม่ว่าจะเป็น
- ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากหรือน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานสูง
- ผู้ที่ไม่ค่อยออกกำลังกาย
- และยังรวมไปถึงผู้ที่มีไขมันในเลือดสูง
ดังนั้นเมื่อเราลองพิจารณาดูเราจะเห็นว่า จริงๆแล้วทุกคนก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคเบาหวานกันทั้งนั้น ยิ่งในยุคปัจจุบันที่เราสามารถเข้าถึงอาหารประเภทต่างๆได้ง่ายมากๆ อีกทั้งยังมีความน่ากินของอาหารมากยิ่งขึ้น และการใช้ชีวิตที่เร่งรีบ จนอาจทำให้เราไม่มีเวลาที่จะดูแลตัวเองเช่นการออกกำลังกายเป็นประจำ ยิ่งส่งผลให้เรามีโอกาสที่จะเป็นโรคเบาหวานได้ง่าย
ดูแลตัวเองก่อนที่จะสายเกินไป
การที่เราจะใช้ชีวิตให้ห่างไกลจากการเกิดโรคเบาหวานนั้น สิ่งที่เราพอจะทำได้ก็คือ การที่เราให้ความสำคัญกับอาหารในแต่ละมื้อ เพราะว่าอาหารนั้นมีความสำคัญมากและส่งผลโดยตรง และเรายังสามารถควบคุมได้ด้วยตัวเราเองอีกด้วย
เมื่อเราทำการควบคุมอาหารได้ในระดับหนึ่งแล้ว สิ่งที่ควรทำควบคู่กันไปก็คือการบริหารร่างกาย เหลือการออกกำลังกายนั่นเอง เพราะการออกกำลังกายก็เป็นการทำให้ร่างกายของเราแข็งแรงมากยิ่งขึ้น และสามารถเผาผลาญไขมันในส่วนที่มันเกินในร่างกายของเราออกไปได้
โดยเราสามารถที่จะเลือกการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับเรา ซึ่งในยุคสมัยนี้มีการออกกำลังกายที่หลากหลาย ซึ่งเราสามารถเลือกสิ่งที่เราชอบได้ไม่ยาก
อีกสิ่งหนึ่งที่อยากจะเพิ่มเติมก็คือการตรวจสุขภาพประจำปี การที่เรามีการตรวจสุขภาพประจำปีนั้น จะทำให้เรารู้ว่าเรามีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคมากน้อยแค่ไหน และในการตรวจสุขภาพนั้นก็ยิ่งจะบอกให้เรารู้ว่า เราควรที่จะดูแลเกี่ยวกับอะไรมากเป็นพิเศษ ในกรณีที่เรารู้ผลการตรวจว่าเรามีความเสี่ยงที่จะเป็นเบาหวานสูง เราก็จะได้ทำการปฏิบัติตัวได้อย่างถูกต้อง หรือในรายที่ตรวจแล้วพบว่าตัวเองเป็นเบาหวาน ก็สามารถที่จะรักษาตัวเองได้อย่างถูกต้องอีกด้วย
สำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวานนั้นควรจะดูแลเรื่องระดับน้ำตาลอย่างใกล้ชิด ยิ่งในรายที่มีระดับน้ำตาลที่สวิงขึ้นลงบ่อย จะมีอันตรายที่สูงกว่าคนที่มีระดับน้ำตาลคงที่ เพราะมักจะเห็นอาการที่พบเจอก็คืออาการหน้ามืดหรือบ้านหมุนบ่อยๆ
ดังนั้นวันนี้ข้อมูลที่คุณได้นี้ อาจจะไม่ได้การันตีว่าคุณเป็นโรคเบาหวานหรือไม่ ดังนั้นหากคุณมีอาการบางอย่าง ที่อาจจะบ่งชี้ว่าคุณมีโอกาสที่จะเป็นโรคเบาหวาน สิ่งที่จะแนะนำก็คือ คุณควรที่จะไปพบแพทย์ เพื่อตรวจให้ละเอียดว่าคุณมีภาวะของโรคเบาหวานหรือไม่
รักษาเบาหวานด้วยสมุนไพร MODI กดดูข้อมูลได้ที่รูปด้านล่าง