วันนี้จะมาแนะนำวิธีการบรรเทาจากอาการกรดไหลย้อนด้วยแนวทางที่สามารถทำได้ด้วยตนเอง เพื่อให้ หยุดกรดไหลย้อน ที่เราเป็นอยูได้จริง ไปเริ่มกันเลยครับ
1. อย่ารับประทานมากเกินไป
ควรแบ่งการรับประทานอาหารเป็นมื้อเล็กๆ 5-6 มื้อต่อวัน หรือรับประทานเป็นอาหารหลัก 3 มื้อเล็กๆ และอาหารเสริมอีก 3 มื้อก็ได้ การรับประทานแบบนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้กระเพาะอาหารสร้างกรดมากเกินไป ทำให้ลดอาการแสบร้อนยอดอกได้เป็นอย่างดี
2. อย่ารับประทานเร็วเกินไป
การรับประทานเร็วเกินไป เคี้ยวน้อยลง จะทำให้ระบบทางเดินอาหารต้องทำงานหนักมากขึ้นแถมยังทำให้อาหารไม่ย่อย ท้องอืด และกรดไหลย้อนตามมาได้ ดังนั้นควรรับประทานอาหารให้ช้าลงและเคี้ยวอาหารให้ละเอียดก่อนกลืน
คำแนะนำ: ให้เคี้ยวอาหาร 20 ครั้ง หรือนับให้ถึง 20 ครั้งก่อนที่จะรับประทานคำถัดไป
3. ไม่รับประทานอาหารที่กระตุ้นให้เกิดกรดไหลย้อน
อาหารหลายชนิดสามารถกระตุ้นให้เกิดอาการกรดไหลย้อนได้ อาหารเหล่านั้นแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่
ประเภทที่ 1 อาหารที่ทำให้หูรูดหลอดอาหารส่วนล่างคลายตัวในเวลาที่ไม่ควร
- อาหารทอด อาหารมันๆ
- ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากมันเนย
- ช็อกโกแลต
- เครื่องดื่มมีคาเฟอีน เช่น น้ำอัดลม กาแฟ ชา และโกโก้
ประเภทที่ 2 อาหารที่ทำให้กระเพาะอาหารสร้างกรดมากเกินไป
- เครื่องดื่มมีคาเฟอีน
- น้ำอัดลม
- แอลกอฮอล์
- อาหารรสจัด เช่น เผ็ดจัด เค็มจัด เปรี้ยวจัด
4. อย่าเข้านอนทันที หลังรับประทานอาหารเสร็จใหม่ๆ
การนอนในขณะที่ กระเพาะอาหาร ยังเต็มแน่นไปด้วยอาหารทำให้หูรูดหลอดอาหารส่วนล่างถูกดันให้คลายตัว ส่งผลให้อาหารและกรดจากกระเพาะไหลย้อนขึ้นไป หลังจากนั้นจะเกิดอาการกรดไหลย้อนตามมา
ทางที่ดีหลังรับประทานอาหารเสร็จ ควรรออย่างน้อย 3-4 ชั่วโมง แล้วจึงเข้านอน
5. ไม่สูบบุหรี่
กรดไหลย้อนก็เป็นหนึ่งในปัญหาที่เกิดจากการสูบบุหรี่ เพราะสารเคมีบางชนิดในบุหรี่เพิ่มโอกาสในการเป็นกรดไหลย้อนได้
6. อย่าดื่มหนักเกินไป
แอลกอฮอล์เพิ่มปริมาณการสร้างกรดในกระเพาะอาหารและทำให้ หูรูดหลอดอาหาร ส่วนล่างคลายตัว หากต้องการดื่มแอลกอฮอล์บ้างสามารถเลือกวิธีโดยการ เลือกเบียร์ หรือไวน์ชนิดปราศจากแอลกอฮอล์หรือ เจือจางเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยน้ำ หรือโซดา
7. อย่าเครียดเกินไป
ความเครียดส่งผลให้ กระเพาะอาหาร ลำไส้ และหลอดอาหารทำงานน้อยลง แต่มีการหลั่งกรดมากขึ้น หากคุณมีพฤติกรรมดังต่อไปนี้ เช่น รับประทานอาหารไม่ตรงเวลา รับประทานอาหารดึกๆ รับประทานเสร็จแล้วนอนทันที หรือไม่มีเวลาออกกำลังกาย จะยิ่งทำให้มีโอกาสเป็นโรคกรดไหลย้อนได้ง่ายขึ้น
***ทางที่ดีควรหากิจกรรมผ่อนคลายความเครียดบ้าง เช่น นั่งสมาธิ ออกกำลังกาย อ่านหนังสือ หรืออะไรก็ตามที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและลดความเครียดได้และอย่าลืม หมั่นสังเกตอาการของตนเองเป็นประจำก็จะช่วยให้คุณห่างไกลจากโรคกรดไหลย้อน แต่หากคุณมีอาการกรดไหลย้อนรุนแรงมากขึ้น แนะนำให้พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินอาหารโดยตรงเพื่อตรวจประเมินร่างกายและรับการรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสมจะดีที่สุด***
ดูแลอาการกรดไหลย้อนที่คุณเป็นด้วย กรีนเคอมิน และเ คอม่า แม๊กซ์ สมุนไพรเหรียญทอง
บทความยอดนิยม