4 ภาวะแทรกซ้อนควรรู้จากโรคเบาหวาน

เบาหวานพบได้มากในปัจจุบัน โดยส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมโดยเฉพาะในกลุ่มคนที่น้ำหนักตัวเกิน มักจะไม่ชอบการออกกำลังกาย ปัจจุบันเราจะพบว่าเบาหวานชนิดที่เราพบบ่อยก็คือ เบาหวานชนิดที่ 2 

เบาหวานเป็นโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้ เพราะร่างกายของเรามีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ และในผู้ป่วยเบาหวานชนิดนี้ จะไม่สามารถสร้างอินซูลินได้อย่างเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย 

อย่างไรก็ตามเราจะพบโรคเบาหวานชนิดนี้ได้ในกลุ่มวัยกลางคนไปจนถึงผู้สูงอายุ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่เป็นโรคอ้วน และประวัติบุคคลในครอบครัวของเราที่เป็นเบาหวาน 

โดยเราสามารถป้องกันตนเองได้เพียงหัดสังเกตการณ์เปลี่ยนแปลง และสัญญาณต่าง ๆ ของร่างกายต่อไปนี้

  • 1.ปัสสาวะบ่อย
  • 2.  หิวบ่อย 
  • 3. อ่อนเพลีย
  • 4. ตาพร่ามัว เห็นไม่ชัด
  • 5. ชาตามมือ ตามเท้า
  • 6. เป็นแผลและหายยาก
  • 7. น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ

คนไข้เบาหวาน มักจะมีโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สามารถพัฒนาร้ายแรงถึงชีวิต ถึงแม้โรคแทรกบางชนิดที่ไม่ร้ายแรงแต่ก็ ส่งผลกระทบกับการดำเนินชีวิตในประจำวัน 

โดยสาเหตุนั้นมาจากการที่ผู้ป่วยโรคบาหวานขาดการดูแลตนเอง และละเลยการดูแลตนเองและไม่ยอมปฏิบัติตนตามคำแนะนำของแพทย์ ทำให้เกิดโรคแทรกซอนต่าง ๆ

4 โรคยอดฮิตที่สามารถพบได้บ่อยในผู้ป่วยโรคเบาหวาน

1. โรคไตวายเฉียบพลัน

ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีน้ำตาลในเลือดสูงกว่าคนปติ ดังนั้นเมื่อไหร่ ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น จะส่งผลให้เกิดอันตรายต่อหลอดเลือดที่อยู่ในไต ทำให้ไตเสื่อมและ นำไปสู่การมีโปรตีนในปัสสาวะส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อไตและเมื่อปล่อยทิ้งไว้เป็นระยะเวลานานก็อาจทำให้เกิดภาวะไตวายเฉียบพลันอาจทำให้อันตรายต่อชีวิตได้

2. โรคเบาหวานขึ้นตา

เป็นโรคแทรกซ้อนที่พบได้บ่อย ในผู้ป่วยโรคเบาหวาน มีสาเหตุมาจากการควบคุมน้ำตาลในเลือดที่ไม่ค่อยดี มีระดับน้ำตาลในเลือดไม่คงที่ก็จะขับน้ำตาลไปยังตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ดวงตา ทำให้เกิดความผิดปกติบริเวณดวงตา เช่น ต้อ, จอประสาทตาเสื่อม, สูญเสียการมองเห็น และอาจจะตาบอดได้

3. โรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมอง

ผู้ป่วยโรคเบาหวานมักจะมีโรคแทรกซ้อนคือ หลอดเลือดแข็งตัว โดยสาเหตุมาจากร่างกายของเรามีระดับน้ำตาลในเลือดสะสมเป็นปริมาณมากส่งผลให้เส้นเลือดหนาขึ้น หากปล่อยทิ้งไว้นาน ๆ หลอดเลือดจะแข็งและตีบตัน อาจส่งผลให้เกิดโรคที่อวัยวะนั้น เช่น หลอดเลือดหัวใจหรือหลอดเลือดสมอง ซึ่งโรคแทรกซ้อนดังกล่าว ล้วนเป็นโรคแทรกซ้อนอันตรายต่อการเสียชีวิตและพิการ

4. อาการแทรกซ้อนที่เกี่ยวกับระบบประสาทของผู้ป่วยเบาหวาน

ทำให้ผู้ป่วยสูญเสียการรับรู้ ความรู้สึกในส่วนต่าง ๆ เช่น เมื่อได้รับบาดเจ็บหรือได้รับแผลจะไม่ค่อยรู้สึกตัว และแผลก็หายช้ากว่าคนปกติ ซึ่งหากขาดการดูแลอาจจะส่งผลให้เกิดอการอักเสบและลุกลามส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและแผลอาจจะติดเชื้อได้ 

อวัยวะที่มีปัญหาการเจ็บป่วยมากที่สุดก็คือ เท้า เนื่องจาก เท้าเพราะเป็นอวัยวะที่ผู้ป่วยใช้บ่อยในการเดิน มีโอกาสทำให้เกิดบาดแผลมากที่สุด ผู้ป่วยมักจะไม่ทราบว่าตนเองมีบาดแผลเนื่องจากเสียการรับรู้ที่ปลายประสาท โดยกว่าผู้ป่วยจะรู้แผลเริ่มลุกลามไปแล้ว ดังนั้น สิ่งที่สำคัญคือการดูแลเท้า 

ดูแลตัวเองอย่างไรเมื่อเป็นโรคเบาหวาน

1.พบแพทย์เพื่อติดตามอาการอยู่เสมอ และตั้งใจดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์

2.ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับที่ปกติ โดยการควบคุมอาหารการกิน งดการกินอาหารหวาน งดการกินแป้ง เน้นการกินผัก

3. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ

4.ทำใจให้สบาย เพราะความเครียดถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น

5.ลดปัจจัยการเกิดโรคเบาหวานต่างๆ เช่น การดูแลตัวเองเรื่องอาหารการกิน ออกกำลังกาย และ พยายามไม่ครียด เท่านี้ก็จะลดความเสี่ยงและห่างไกลโรคเบาหวานได้

เมื่อเรารู้ถึงความอันตรายของโรคเบาหวานแล้วสิ่งที่เราควรทำก็คือ การใส่ใจทั้งเรื่องการกิน และการออกกำลังกาย เพื่อเป็นแนวทางป้องกันไม่ให้เรามีโอกาสเกิดโรคเบาหวาน หรือต่อให้คนในครอบครัวของเราเป็นเบาหวาน ก็ไม่ใช่ว่าเราจะต้องเป็นด้วย ดังนั้นสิ่งสำคัญคือการหันมาดูแลตัวเองอย่างจริงจัง 

สำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวานแล้ว การควบคุมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการกินอาหาร การออกกำลังกาย การพักผ่อน ก็ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญ เพื่อจะทำให้ระดับน้ำตาลไม่สูงเกินไป ซึ่งเมื่อเราควบคุมระดับน้ำตาลได้ โรคเบาหวานก็ไม่สามารถที่จะทำอันตรายร้ายแรงให้เราได้ 

ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานสามารถคลิกเข้าไปดูรายละเอียดเกี่ยวกับสมุนไพรโมดิได้ที่รูปด้านล่างนี้

โมดิ modi
แชร์ให้เพื่อนคุณ
Share on facebook
Facebook
0
Share on google
Google
Share on twitter
Twitter
Share on pinterest
Pinterest
0