โยเกิร์ตถือว่าเป็นอาหารทางเลือกที่ดีโดยเฉพาะผู้ป่วยที่เป็นเบาหวาน แต่ก็ควรระวังและศึกษาโภชนาการก่อนทานว่าโยเกิร์ตแบบใดที่เหมาะสมกับเรามากที่สุด เพราะโยเกิร์ตส่วนใหญ่นั้นมีรสหวานและน้ำตาลสูง
นอกเหนือจากนั้นการรับประทานโยเกิร์ตชนิดไขมันต่ำหรือไม่มีไขมัน ทุกวันทำให้ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ลดลงถึง 17% อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับชนิดของโยเกิร์ตด้วย
โดยเราสามารถเติมแยมหรือน้ำผึ้ง 1 ช้อนชาลงไปในโยเกิร์ตเพื่อเพิ่มรสชาติและความอร่อยได้
โยเกิร์ตแบบกรีก คือโยเกิร์ตที่ผ่านการนำไขมันออกไป ทำให้ส่วนที่เหลืออยู่มีลักษณะข้นขึ้นและอุดมไปด้วยโปรตีนเน้นๆ
โดยเราสามารถหาซื้อโยเกิร์ตชนิดนี้ได้ตามร้านขายของชำทั่วไป โดยโยเกิร์ตชนิดนี้มีส่วนประกอบและคุณสมบัติต่อไปนี้..
- เมื่อลองคุณประโยชน์กับโยเกิร์ตชนิดธรรมดาโยเกิร์ตชนิดนี้ให้โปรตีนสูงถึง 5 กรัมต่อถ้วย
- มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตเพียง 1/3 ของคาร์โบไฮเดรตในโยเกิร์ตแบบทั่วไป
- โยเกิร์ตแบบกรีกย่อยง่ายกว่าโยเกิร์ตแบบธรรมดา เนื่องจากมีคาร์โบไฮเดรตและ lactose ที่น้อยกว่า
- มีแมกนีเซียม วิตามินดีสูง สร้างความแข็งแรงต่อกระดูก
- เหมาะกับผู้ป่วยโรคไตเพราะ มีปริมาณโซเดียมแค่ครึ่งเดียวของโยเกิร์ตธรรมดา
การทานโยเกิร์ตในตอนเช้า
พวกเราสามารถเลือกรับประทานโยเกิร์ตแบบกรีกชนิดไขมันต่ำ รวมถึงการใส่ผลไม้เพิ่มเติม และอาจเพิ่มแอลมอนด์และถั่วอื่นๆที่ชอบประมาณ 6-8 ชิ้นเพื่อให้ได้โปรตีนและไขมันที่ดีต่อสุขภาพ
หากเราคิดว่ารสชาติที่เราทานนั้นไม่หวาน เราสามารถใส่สารแทนความหวานได้, หญ้าหวาน หรือน้ำผึ้งเล็กเพียงเล็กน้อย และอาจเพิ่มผลไม้หรือขนมปังโฮลวีต โยเกิร์ตสำหรับใช้จิ้มของว่าง
โยเกิร์ตแบบกรีกชนิดไขมันต่ำหรือไม่มีไขมัน อาจสามารถใช้เป็นซอสจิ้มแทนได้ เนื่องจากรสชาติและเนื้อโยเกิร์ตสัมผัสนั้นเหมือนกับซอส sour cream
ตัวอย่างเมนูอาหารที่ควรลองที่ใช้โยเกิร์ตแบบกรีกเป็นส่วนประกอบ
- Blueberry Smoothie และสมูทตี้อื่นๆ
- แซนวิชโยเกิร์ตกรีก โดยใช้โยเกิร์ตกรีกแทนมายองเนส และทานคู่กับขนมปังโฮลวีต
- สลัดโยเกิร์ต อาจปรับลดชาติใหม่ โดยลองผสมกับนมและผงปรุงรสอื่นๆบ้างก็ได้เหมือนกัน
แม้โยเกิร์ตจะเป็นอาหารที่เหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน แต่ก็ควรควบคุมปริมาณการบริโภคในแต่ละมื้อ และควรศึกษาสารอาหารและโภชนาการของโยเกิร์ตแต่ละยี่ห้อให้ดี
…สำคัญเลยคือไม่ควรเลือกโยเกิร์ตที่มีรสชาติเพราะ โยเกิร์ตเหล่านั้นล้วนมีน้ำตาลที่สูง อย่าชะล่าใจว่าทานโยเกิร์ตดี
เพราะฉะนั้นเราจะทานเท่าไหร่ก็ได้ ด้วยเหตุผลที่ว่าโยเกิร์ตเป็นอาหารสำหรับผู้เป็นโรคเบาหวาน แต่อย่าลืมว่าในโยเกิร์ตเกือบทุกชนิดนอกจากแบบไขมัน 0% ยังมีปริมาณไขมัน น้ำตาลและคอเรสเตอรอลที่ควรคำนึงถึงก่อนซื้อเสมอ หากรับประทานโดยไม่ระมัดระวัง ก็ไม่ต่างจากการทานขนมหวานที่จะทำให้อาการโรคเบาหวานทรุดหนักลงได้