โรคภูมิแพ้ขึ้นตา เกิดจากที่ร่างกายของเรามีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งที่แพ้ โดยมักอักเสบที่บริเวณเยื่อบุตาสีขาว เราจะพบเจอกับอาการดังนี้
- อาการคัน
- เคืองตา
- แสบตา
- น้ำตาไหล
- และเยื่อบุตาแดง
โดยอาจเกิดจากหลายสาเหตุ ดังนี้
แพ้ตามฤดูกาล:
มักเกิดตามสภาพอากาศ ณ เวลานั้น โดยมักเกิดซ้ำ ๆได้
แพ้สารต่าง ๆ:
เช่น ไรฝุ่น อาหาร เกสรดอกไม้ น้ำยาปรับผ้านุ่ม และเครื่องสำอาง เป็นต้น
แพ้คอนแทคเลนส์:
มักเจอเม็ดขนาดใหญ่ที่บริเวณเยื่อบุตา ต้องตรวจพื้นผิวเยื่อบุตาอย่างละเอียดโดยแพทย์เฉพาะทาง
การตรวจวินิจฉัย
แพทย์เฉพาะทางจะวินิจฉัยจากความผิดปกติของเรา โดยอาการจะรุนแรงมากหรือน้อยขึ้นกับการอักเสบในแต่ละครั้ง
หากรุนแรงมากตาจะแดงมาก หรือถ้าหากเราเป็นมากจะมีเม็ดนูน ๆ ไปกดกระจกตาดำ ทำให้กระจกตาดำเป็นแผล และในบางรายที่มีการอักเสบลามเข้ามาที่ตาดำซึ่งถือว่ารุนแรงมาก ส่งผลให้ทำการรักษาได้ยาก และอาจตาบอดได้
รักษาภูมิแพ้ขึ้นตา
1. เราควรหลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้ โดยต้องหัดสังเกตว่าแพ้อะไร เพราะถ้าไม่รู้ก็จะยากในการหลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้
2. การรักษาทางจักษุ หากมีการแสดงอาการภูมิแพ้ขึ้นตา จักษุแพทย์จะใช้ยาหยอดตาเพื่อช่วยลดอาการแพ้ และทำให้เยื่อบุตาแข็งแรง ทนต่อสิ่งที่แพ้ได้มากขึ้น
ป้องกันได้ถ้าหากเรารู้ทันโรค
การป้องกันที่ดีที่สุดคือ การดูแลดวงตาของพวกเราให้ดี ไม่ควรให้ตาตกอยู่ในภาวะตาแห้ง เพราะเมื่อตาของเราแห้งแล้วเกิดการแพ้ จะทำให้คันจนอาจเผลอไปขยี้ตา จะเพิ่มการอักเสบของดวงตาให้มากขึ้น
ต้องรู้จักสังเกตความผิดปกติจะได้รักษาได้ทัน แต่เมื่อเด็กโตขึ้นภูมิคุ้มกันจะเพิ่มขึ้นช่วยให้อาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ความรุนแรงของโรค
ในกรณีที่พวกเราเป็นภูมิแพ้ขึ้นตาบ่อยครั้งนั้น อาจทำให้เยื่อบุตาอักเสบแบบเรื้อรังได้ เนื่องจากอาการคันตาเกิดขึ้นทำให้เราเคืองตาบ่อย ๆ ต้องรักษาเบื้องต้นโดยการหยอดตา แต่ในทางกลับกันการหยอดตาเป็นประจำก็มีผลเสียได้ หากเราใช้ยาในกลุ่มของสเตียรอยด์เป็นประจำ ทำให้มีโอกาสเสี่ยงในการเป็นโรคต้อหินมากขึ้น
ผู้ป่วยหลายคนอาจคิดว่า โรคภูมิแพ้ขึ้นตา ไม่ได้ร้ายแรงอะไรมาก เพราะเมื่อเราเกิดอาการคัน เคือง หรือบวม แต่เมื่อทานยาหรือหยอดตา อาการผิดปกติที่พวกนี้ดันหายไป
ทั้งที่แท้จริงหากเราขาดการรักษาที่ถูกต้องในระยะยาว อาจจะทำให้เกิดความผิดปกติที่คาดไม่ถึงได้ หรือการสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวรได้หากไม่ทำการรักษาให้ถูกวิธีกับแพทย์เฉพาะทาง