โรคกระเพาะ Vs โรคกรดไหลย้อน แตกต่างกันอย่างไง

“โรคกระเพาะ” และก็ “โรคกรดไหลย้อน”

เป็นสองโรคเรื้อรังที่สร้างความสับสนให้กับคนป่วยไม่น้อย ด้วยที่ว่าอาการที่คล้ายกันและก็ตำแหน่งของอาการที่ใกล้เคียงกัน ทำให้หลายครั้งคนป่วยมีความคิดว่า…นี่เป็นโรคเดียวกัน!!! พวกเรามาเช็คกันหน่อยดีมากกว่า ว่าโดยความเป็นจริงแล้วสองโรคนี้มีลักษณะอาการแตกต่างอย่างไรบ้าง?? ก่อนที่จะอาการจะแผ่ขยายกระทั่งรุนแรงกว่าที่คิด…

พิจารณาให้ดี…สองโรคนี้อาการแตกต่างกัน!!

ลักษณะของการปวดท้องที่ชี้ชัดว่าเป็น “โรคกระเพาะ” ผู้เจ็บป่วย จะมีลักษณะปวด จุก แน่น ใต้ลิ้นปี่ เหนือสะดือ ปวดใต้ชายโครงซ้าย แล้วก็มักเป็นๆหายๆ โดยจะสัมพันธ์กับมื้ออาหาร เป็นบางทีอาจปวด ก่อนหรือหลังรับประทานอาหาร ขณะที่ “โรคกรดไหลย้อน” ชอบเกิดอาการภายหลังมื้ออาหาร 30-60 นาที ผู้ป่วยจะรู้สึกแสบร้อนรอบๆอกหรือลิ้นปี่ เรอบ่อยมาก รวมทั้งรู้สึกราวกับมีน้ำรสขมหรือรสเปรี้ยวไหลย้อนขึ้นมาทางปาก

ถึงจะแตกต่างกัน…แต่ว่าอันตรายถึงขนาดเป็น “โรคมะเร็ง” ได้แบบเดียวกัน

โรคกระเพาะ → โรคมะเร็งกระเพาะอาหาร
ถ้าเกิดลักษณะของการปวดจุกแน่นใต้ลิ้นปี่…เริ่มทวีความร้ายแรงถึงขนาดไม่สามารถที่จะนอนได้! มีลักษณะอาการคลื่นไส้หรืออึเป็นเลือด กลืนของกินลำบาก น้ำหนักลด ตัวเหลือง ตาเหลือง หรือมีก้อนในท้อง นั่นบางทีอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงโรคมะเร็งกระเพาะอาหารได้

โรคกรดไหลย้อน → โรคมะเร็งหลอดอาหาร
แม้อาการแสบร้อนรอบๆทรวงอก…เพิ่มความถี่มากยิ่งกว่าสองครั้งต่ออาทิตย์ รวมถึงอาการกลืนของกินลำบาก หรือกลืนแล้วมีความคิดว่ามีก้อนอะไรในคอ เจ็บทรวงอก แล้วก็ยาลดกรด..ไม่อาจจะใช้ทุเลาอาการได้อีกต่อไป นี่เป็นสัญญาณแสดงว่าคุณควรจะไปพบหมอด่วน!!

ไม่ต้องการทนกับลักษณะของการปวดท้อง…จำเป็นต้องดูแลตนเอง
-เลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มชา กาแฟ รวมทั้งเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
-หมั่นทานอาหารให้ตรงเวลา ไม่ปล่อยให้ท้องว่างรวมทั้งกินอาหารในจำนวนที่พอดิบพอดีไม่ทานมากจนเกินไป และเลี่ยงของกินรสจัด
-หมั่นออกกำลังกายให้เป็นนิสัย บริหารร่างกายอย่างสม่ำเสมอ
-ดูแลพักผ่อนให้พอเพียง แล้วก็เลี่ยงความตึงเครียด

เนื่องจากว่าโรคกรดไหลย้อนจะเกิดขึ้น…เมื่อคุณป่วยด้วยโรคกระเพาะมาอยู่ก่อนแล้ว!! ด้วยเหตุนั้น…การเปลี่ยนความประพฤติการใช้ชีวิตก็เลยไม่เพียงแค่รักษาอาการกระเพาะอักเสบ แม้กระนั้นยังช่วยลดการเสี่ยงต่อการเป็นโรคกรดไหลย้อนได้อีกด้วย แล้วอย่างนี้จะคอยอะไรล่ะ?? หันมาดูแลตนเอง…ก่อนที่จะมีอาการป่วยเป็นโรครุนแรงกันเลยดีกว่า