อาการจุกเสียดท้อง ของผู้ที่เป็นกรดไหลย้อนนั้น สามารถแสดงได้ตั้งแต่ อาการที่เป็นไม่มาก คืออาจจะทำให้ผู้ที่มีอาการนั้นแค่รู้สึกอึดอัดหรือรำคาญ แต่ในรายของผู้ป่วยที่เป็นกรดไหลย้อนเรื้อรัง อาการจุกเสียดท้องบางครั้งอาจทำให้มีอาการที่หายใจไม่ออก หรือต้องทรมานกับอาการที่เป็นนั้น จนไม่สามารถที่จะทนได้
กรดในกระเพาะอาหารที่ใช้ในการย่อยอาหาร สามารถไหลย้อนเข้าไปในหลอดอาหาร มักจะมีอาการที่แสดงออกมา คือ เสียดท้อง ปวดหรือแสบร้อนที่หน้าอกและจะมีอาการอื่น ๆ ได้แก่
- มีรสเปรี้ยวในปาก
- แสบคอ
- และเรอ
การเสียดท้องในปัจจุบันนี้ถือเป็นเรื่องปกติโดยสิ้นเชิง แต่ถ้าคุณมีอาการมากกว่าสองครั้งต่อสัปดาห์หรือมากกว่านั้น อาจพบได้ว่าเป็นคุณเป็นโรคกรดไหลย้อน และอาจนำไปสู่ปัญหาที่รุนแรงมากขึ้นได้
![อาการหลักของ กรดไหลย้อนเรื้อรัง](https://refluxacids.com/wp-content/uploads/2020/08/อาการหลักของ-กรดไหลย้อนเรื้อรัง.jpg)
อาการหลักของ กรดไหลย้อนเรื้อรัง คืออะไร?
อาการหลักคือ อาการเสียดท้องอย่างต่อเนื่อง หรืออาการอื่นๆที่เกิดจากกรดไหลย้อนก็ได้
บางคนเป็นโรคกรดไหลย้อนโดยไม่มีอาการเสียดท้อง แต่พวกเขารู้สึกเจ็บที่หน้าอก เสียงแหบในตอนเช้า หรือกลืนลำบาก คุณอาจรู้สึกเหมือนมีอาหารติดคอหรือเหมือนกำลังสำลักหรือแน่นคอ โรคกรดไหลย้อนอาจทำให้เกิดอาการไอแห้งและมีกลิ่นปากได้
อาการจุกเกรดไหลย้อนเรื้อรังและการจุกเสียดท้องสียท้องเป็นอย่างไร ?
อาการจุกเสียดท้องเป็นอาการหนึ่งของกรดไหลย้อน จะเป็นความรู้สึกแสบร้อนกลางอกที่เกิดจากการระคายเคืองต่อเยื่อบุหลอดอาหาร ที่เกิดจากกรดในกระเพาะอาหาร
สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แต่มักจะแย่ลงหลังจากรับประทานอาหาร สำหรับหลาย ๆ คนอาการเสียดท้องจะแย่ลงเมื่อนอนอยู่บนเตียงซึ่งทำให้นอนหลับสบายได้ยาก หรือในบางรายอาจมีอาการแสดงระหว่างที่ตัวเองหลับไป ทำให้มีความจำเป็นที่จะต้องตื่นขึ้นมากลางดึก
กรดไหลย้อนเรื้อรังและการจุกเสียดท้อง พบได้บ่อยแค่ไหน?
โรคกรดไหลย้อนพบได้บ่อยมาก ทุกคนในวัยใดก็ได้สามารถเป็นโรคกรดไหลย้อนได้ แต่บางคนอาจมีความเสี่ยงมากกว่า ตัวอย่างเช่นโอกาสที่คุณจะเป็นโรคกรดไหลย้อน (เล็กน้อยหรือรุนแรง) จะเพิ่มขึ้นหลังอายุ 40 ปี
นอกจากนี้คุณยังมีแนวโน้มที่จะมีโอกาสที่จะเป็นกรดไหลย้อนได้มาก โดยอาจมีสาเหตุมาจาก
- น้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน
- ตั้งครรภ์
- สูบบุหรี่เป็นประจำ
- ทานยาบางชนิดที่อาจทำให้กรดไหลย้อน
โดยปัจจัยที่สามารถนำไปสู่โรคกรดไหลย้อนและการจุกเสียดท้องที่พบได้บ่อยๆ ได้แก่ :
- ความดันมากเกินไปในช่องท้อง หญิงตั้งครรภ์บางคนมีอาการเสียดท้องเกือบทุกวันเนื่องจากความดันที่เพิ่มขึ้นจาก อาหารประเภทเฉพาะ (เช่น นม อาหารรสเผ็ด หรือของทอด) และพฤติกรรมการกินอื่นๆ
- ยาที่รวมถึง ยาสำหรับโรคหอบหืด ความดันโลหิตสูง และโรคภูมิแพ้ เช่นเดียวกับยาแก้ปวด ยาระงับประสาท และยาต้านอาการซึมเศร้า ดังนั้นการทานยาเราจะต้องดูด้วยว่ายาตัวนั้นสามารถก่อให้เกิดกรดได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งคนควรที่จะปรึกษาแพทย์ ประจำตัวของคุณ
- ไส้เลื่อนกระบังลม ส่วนบนของกระเพาะอาหารจะโป่งเข้าไปในกะบังลมซึ่งเข้ามาขัดขวางการรับประทานอาหารตามปกติ
![อาการจุกเสียท้องเป็นอย่างไร](https://refluxacids.com/wp-content/uploads/2020/08/อาการจุกเสียท้องเป็นอย่างไร.jpg)
การรักษากรดไหลย้อนและจุกเสียดท้องทำได้อย่างไรบ้าง ?
วิธีเบื้องต้นสามารถปรับเปลี่ยนการทานอาหาร สำหรับผู้ที่มีอาการเสียดท้องและกรดไหลย้อน ควรหลีกเลี่ยงอาหารต่อไปนี้
- อาหารรสเผ็ดหรือของมันของทอด
- ช็อคโกแลตเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟ
- ผลิตภัณฑ์มะเขือเทศ
- กระเทียม
- สะระแหน่
- เครื่องดื่ม แอลกอฮอล์
- น้ำอัดล
และควรนั่งตัวตรงเป็นเวลา 3 ชั่วโมงขึ้นไปหลังอาหาร เพื่อลดอาการเสียดท้อง ควรรับประทานอาหารมื้อเล็ก ๆ และหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารในช่วง 2 ถึง 3 ชั่วโมงก่อนนอน
เพิ่มเติมสำหรับผู้ที่มีอาการเสียดท้องบ่อยๆหลังจากที่รับประทานอาหาร คุณควรที่จะมีการเดินเล่น หรือทำกิจกรรมเบาๆ เพื่อทำให้ระบบย่อยอาหารนั้นดีขึ้นได้
และคุณยังสามารถที่จะแบ่งมื้ออาหาร จาก 3 มื้อ เป็น 5-6 มื้อเยอะๆได้ เพื่อทำให้ระบบการย่อยของคุณไม่ต้องทำงานหนักมากจนเกินไป
สุดท้ายแล้วเราก็ไม่สามารถที่จะสรุปได้ว่า หากวันนี้คุณมี อาการจุกเสียดท้อง อาการดังกล่าวนั้นจะเกิดขึ้นจากกรดไหลย้อนหรือไม่ แต่สิ่งที่คนควรให้ความสำคัญมากๆเลยก็คือ คุณควรจะหมั่นสังเกตว่าอาการจุกเสียดแน่นท้องนั้น เกิดขึ้นบ่อยมากน้อยแค่ไหน เพื่อที่จะได้ทำการรักษาให้อาการดังกล่าวนั้นดีขึ้น
และหากอาการดังกล่าวเกิดขึ้นจากโรคกรดไหลย้อนแล้วนะ คุณก็ควรให้ความสำคัญในการรักษาอาการให้หายโดยเร็ว ก่อนที่จะเกิดเป็นกรดไหลย้อนชนิดเรื้อรัง