รักษากรดไหลย้อนโดยไม่ใช้ยา ทำได้จริงเหรอ!!

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับโรคกรดไหลย้อนกันก่อนนะครับ เพราะเท่าที่ได้พูดคุยกับผู้ป่วยที่ทักมาสอบถามหรือเล่าอาการให้ฟังนั้น ส่วนใหญ่แล้วความเข้าใจในเรื่องของโรคกรดไหลย้อนนั้น มักจะไม่ค่อยถูกต้องสักเท่าไหร่ 

โดยผู้ป่วยที่มีอาการของโรคกรดไหลย้อนนั้น มักจะคิดว่าถ้าเป็น โรคกรดไหลย้อน จะต้องมีอาการแสบบริเวณท้องหรือบริเวณหน้าอกขึ้นไปที่ลำคอร่วมด้วยเสมอ ซึ่งจริงๆแล้วอาการของโรคกรดไหลย้อนนั้นมีหลากหลายและมากมายกว่านั้น และในบางคนที่เป็นกรดไหลย้อนก็ไม่มีอาการแสบร้อนแสดงออกมาให้เห็นเลยก็มี ดังนั้นการที่เรารู้ว่าอาการที่กำลังเกิดขึ้นกับเราตอนนี้อยู่นั้นเป็นอาการของโรคกรดไหลย้อนหรือไม่นั้นสามารถสังเกตได้ประมาณนี้ 

สังเกตอาการกรดไหลย้อนเบื้องต้น 

อาการของโรคกรดไหลย้อนในเบื้องต้นที่เราสามารถสังเกตตัวเราเองได้นั้นจะมีอาการประมาณนี้

  • แสบร้อนบริเวณทรวงอกขึ้นไปถึงลำคอ
  • มีอาการจุกแน่นทั้งก่อนและหลังทานอาหาร
  • มีอาการเรอบ่อย เรอเปรี้ยว
  • มีน้ำรสขมไหลออกหรือย้อนขึ้นมาในลำคอ
  • มีอาการปวดเมื่อยบริเวณไหล่หรือบ่าทั้งสองข้าง 
  • มีอาการหัวใจเต้นเร็วผิดปกติจากที่เคย 
  • มีอาการเบื่ออาหาร
  • น้ำหนักตัวลดโดยไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด 
  • มีอาการนอนไม่หลับหรือเกิดความเครียดได้ง่าย 
  • ขับถ่ายไม่เป็นปกติ 

กรดไหลย้อนอาการที่เกิดจากพฤติกรรมการกินของเราเอง 

ก่อนที่จะไปพูดคุยถึงการรักษาอาการของโรคกรดไหลย้อนนั้น เราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า สาเหตุหลักที่ทำให้คนเราเป็นกรดไหลย้อนนั้น ล้วนแล้วแต่เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเรานั่นเอง และถ้าเราลองมองกลับไป เราก็จะรู้ดีว่าเราประพฤติหรือปฏิบัติตัวมาอย่างไร ซึ่งการประพฤติตัวหรือปฏิบัติตัวนั้นไม่ใช่ว่าเราจะทำมาแค่วันสองวัน แต่เราทำตัวแบบนี้มานานแล้ว ไม่ว่าจะเป็น

  • การทานอาหารที่ไม่ตรงเวลา
  • การทานอาหารที่มีรสเผ็ดจัด หรือเปรี้ยวจัด
  • การทานเนื้อสัตว์ในปริมาณมากๆ
  • การทานอาหารเสร็จแล้วเข้านอนเลย หรืออาจจะนอนดูมือถือหรือโทรทัศน์โดยไม่ให้อาหารย่อยเสร็จเสียก่อน
  • การสูบบุหรี่
  • การทานกาแฟในปริมาณมากและเป็นประจำ
  • การทำงานที่ต้องพบเจอกับความเครียดเป็นประจำ
  • การทานอาหารที่เคี้ยวไม่ละเอียด
  • การทานอาหารในปริมาณมากหรืออิ่มเกินไป
  • การทานของหมักของดองเป็นประจำ
  • การดื่มแอลกอฮอล์
  • การดื่มเครื่องดื่มที่มีกรด

จากข้อมูล เราจะเห็นว่าส่วนใหญ่แล้วอาการของโรคกรดไหลย้อนนั้นเกิดจากการทานเสียเป็นส่วนใหญ่ ยิ่งสมัยนี้อาหารมีการดัดแปลงให้หลากหลายขึ้น น่ากินยิ่งขึ้น และยังสามารถสะดวกสบายในการสั่งซื้อกินเพิ่มขึ้นมาอีก จึงทำให้เป็นเรื่องยาก ในการควบคุม แต่ก็เป็นเรื่องง่ายที่จะทำให้เกิดโรคกรดไหลย้อนขึ้นได้ 

การรักษากรดไหลย้อนโดยไม่ต้องใช้ยา

โดยการรักษากรดไหลย้อนนั้นเราจะมุ่งเน้นไปที่การรักษาโดยใช้สมุนไพร ที่อยู่ใกล้ตัวของเรา และมีคนจำนวนไม่น้อยที่ใช้และรักษาให้หายจริงได้ 

แต่ก่อนที่เราจะไปรักษานั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคงหนีไม่พ้นการมีวินัยในตัวเอง ซึ่งในระหว่างการรักษานั้นเราจะต้องทำการควบคุมหรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินของเราเสียมั้ย และยังรวมไปถึงการที่เราต้องปรับเปลี่ยนนิสัยต่างๆควบคู่ไปอีกด้วย และต้องทำความเข้าใจว่าเรารักษาโดยใช้สมุนไพรนั้น จะต้องใช้ระยะเวลาในการรักษาประมาณหนึ่ง ซึ่งแต่ละคนก็มีระยะเวลาการรักษาที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับอาการที่เป็นอยู่  

โดยสมุนไพรที่จะใช้ในการรักษานั้นในที่นี้ขอยกตัวอย่างยัง 4 ตัวก็คือ

  1. กล้วยน้ำว้า
  2. ขมิ้นชัน
  3. ขิง
  4. ว่านหางจระเข้

เมื่อเราพูดถึงสมุนไพรทั้ง 4 ตัวนี้เราต้องยอมรับว่า เรารู้จักสมุนไพรทั้ง 4 ตัวนี้เป็นอย่างดี และก็มักจะมีคนที่มีอาการของโรคกรดไหลย้อนแนะนำให้ลองไปใช้ในการรักษา และ ก็มีทั้งผู้ที่ใช้รักษาแล้วได้ผล กับผู้ที่ใช้รักษาแล้วไม่ได้ผล 

ซึ่งถ้าเราลองมองลงไปถึงเหตุผลหลักๆแล้ว ส่วนใหญ่ผู้ที่ทานแล้วไม่ได้ผลดีมักจะเกิดจาก 2 สาเหตุหลักๆก็คือ

1. อาการที่เป็นอยู่เป็นมานานแล้วอาจจะถึงระยะที่ 3 ก็ได้ ดังนั้นการทานสมุนไพรอาจจะไม่ตอบโจทย์ เนื่องจากการแสดงผลลัพธ์นั้นไม่ทันใจ จึงทำให้ผู้ที่ใช้เลิกเสียก่อน 

2.การไม่มีวินัยในตนเอง ซึ่งต้องบอกว่ามีความสำคัญมากๆเพราะถ้าเกิดเราต้องการที่จะรักษาแต่เราก็ยังไม่ ลด ละ เลิก ในสิ่งที่ควรจะทำ การที่จะรักษาให้อาการดีขึ้นนั้นย่อมเป็นไปได้ยากอย่างแน่นอน 

ดังนั้น หากเราต้องการที่จะรักษาอาการของโรคกรดไหลย้อนให้ดีขึ้นนั้น ประเด็นแรกที่เราควรจะมุ่งเน้นไปก็คือ วันนี้เราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบ้างหรือยัง เพราะต่อให้ยาที่เราใช้รักษาจะดีแค่ไหน แต่ถ้าเรายังไม่สามารถที่จะเปลี่ยนตัวเองได้ สุดท้ายแล้วการรักษาย่อมไม่เกิดผลอย่างแน่นอน

ปุ่มสั่งซื้อ-กรีนเคอมิน
green curmin ราคา

บทความแนะนำ

แชร์ให้เพื่อนคุณ
Share on facebook
Facebook
0
Share on google
Google
Share on twitter
Twitter
Share on pinterest
Pinterest
0