รักษากรดไหลย้อนให้หายขาดได้จริงหรือ

โรคกรดไหลย้อนถือว่าเป็นโรคยอดฮิตอีกหนึ่งโรค ที่มีสถิติของผู้ที่เป็นเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นหลายคนจึงมุ่งเพื่อที่จะหาวิธีการในการรักษาด้วยวิธีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแพทย์แผนปัจจุบัน หรือใช้ยาสมุนไพรทางเลือกบางอย่าง 

แต่ประเด็นที่เราจะมาคุยกันในวันนี้ก็คือ โรคกรดไหลย้อนสามารถรักษาให้หายขาดได้จริงหรือ 

อาการของโรคกรดไหลย้อนที่พบเจอ 

ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกับโรคกรดไหลย้อนกันก่อนนะครับ อาการของโรคกรดไหลย้อนนั้นมีหลากหลายมากมายกว่าที่หลายๆคนรู้ โดยยกตัวอย่างได้ดังต่อไปนี้ 

  • อาการจุกแน่น 
  • อาการกลืนอาหารลำบาก 
  • อาการแสบร้อนบริเวณทรวงอกและลำคอ 
  • อาการหัวใจเต้นเร็วผิดปกติจนหลายคนมีความคิดว่าตัวเองเป็นโรคหัวใจ 
  • อาการของโรคแพนิค 
  • อาการไม่อยากอาหาร ซึ่งอาการนี้บางครั้งก็เกิดจากการที่ผู้ป่วยรับประทานอาหารเข้าไปแล้วมีอาการแน่นมาก จนไม่กล้าที่จะรับประทานอาหาร 
  • อาการเครียด 
  • มีลมในท้องมาก ในบางรายจะมีเสียงดัง จนทำให้ผู้ป่วยไม่กล้าที่จะออกไปอยู่ในที่ชุมชน เพราะเกิดอาการอายเวลามีเสียงดังบริเวณท้องของตัวเอง 
  • อาการเรอ ผู้ป่วยหลายคนจะมีอาการเรอบ่อยมาก และทุกครั้งที่ได้เรอจะทำให้ลดการแน่นลงได้ 
  • น้ำหนักลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ  ความคิดเห็นส่วนตัวแล้วผมคิดว่าน่าจะเกิดจากความเครียดของโรคกรดไหลย้อนทำให้เกิดอาการวิตกกังวลซึ่งอาจจะส่งผลให้มีอาการของการนอนไม่หลับหรือรับประทานอาหารไม่ได้มาก 

หลังจากที่เราพอจะทราบอาการของโรคในแบบต่างๆแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่เราจะต้องรู้ก็คือ ผู้ป่วยที่มีอาการของโรคกรดไหลย้อนนั้น ไม่เสมอไปที่จะต้องมีอาการทุกอย่าง 

เพราะอาการต่างๆของโรคกรดไหลย้อน มักจะเกิดขึ้นหรือแสดงตัวในระยะต่างๆของโรคกรดไหลย้อน จึงทำให้ผู้ที่เป็นกรดไหลย้อนมีอาการที่ค่อนข้างจะแตกต่างกัน ก็คือแต่ละคนจะมีอาการที่ไม่ค่อยเหมือนกันเลย 

สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคกรดไหลย้อนได้ 

สาเหตุหลักๆที่จะทำให้ปริมาณของกรดเพิ่มมากขึ้นนั้นสามารถที่จะแบ่งได้เป็น 3 อย่างดังนี้ 

  1. ความเครียด 
  2. เนื้อสัตว์ 
  3. ยาแก้ปวด 

ดังนั้นผู้ที่เป็นโรคกรดไหลย้อนจึงควรที่จะให้ความสำคัญกับ 3 สิ่งข้างต้นที่กล่าวไปแล้ว เพื่อจะได้ช่วยให้อาการกรดไหลย้อนนั้นไม่เกิดอาการที่รุนแรงขึ้นได้ 

อาหารที่กระตุ้นให้อาการของโรคกรดไหลย้อนนั้นกำเริบมากขึ้น 

จริงๆแล้วในเรื่องอาหารนั้น ผมอยากจะให้ผู้ป่วยที่มีอาการของโรคกรดไหลย้อนนั้นพยายามสังเกตอาการของตัวเอง ว่าตัวของผู้ป่วยรับประทานอาหารประเภทไหนแล้วทำให้อาการของโรคกรดไหลย้อนนั้นเป็นมากขึ้น ก็ใช้วิธีในการหลีกเลี่ยงอาหารประเภทนั้น จะเป็นวิธีที่ได้ผลมากที่สุด 

ส่วนอาหารที่ทางการแพทย์ได้แนะนำสามารถนำไปปรับประยุกต์ใช้ได้ โดยให้ดูว่าเราสามารถที่จะทำได้มากน้อยแค่ไหน เพราะโดยส่วนตัวแล้วผู้ป่วยที่เป็นโรคกรดไหลย้อนและพยายามหลีกเลี่ยงอาหารประเภทต่างๆที่ทางแพทย์ได้แนะนำมานั้น จะเกิดความเครียดมากเพราะจะไม่กล้ากินอะไรเลย 

ดังนั้นจึงควรสังเกตอาหารที่เรากินในแต่ละมื้อดูว่า อาหารประเภทไหนที่เรากินเข้าไปแล้วมีอาการ ก็ให้เราหลีกเลี่ยง จะดีกับตัวผู้ป่วยมากที่สุด

รักษากรดไหลย้อนให้ขาดได้จริงหรือ 

การรักษากรดไหลย้อนให้หายขาดนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จริง แต่เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ยาก เพราะกรดไหลย้อนเป็นโรคของพฤติกรรม การที่เราจะทำให้กรดไหลย้อนหายขาดได้ โดยที่ไม่ให้กลับมาเป็นอีก เราจะต้องทำการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหลังจากที่อาการของโรคนั้นดีขึ้น ซึ่งหลายๆคนไม่สามารถที่จะทำได้ จึงทำให้อาการของโรคกลับมาเป็นใหม่ 

ในผู้ป่วยที่เป็นโรคกรดไหลย้อนหลังราย หลังจากที่ทานยาต่างๆเพื่อทำการรักษาหรือบรรเทาอาการให้ดีขึ้น ก็มักจะไม่ทำการทานยาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้อาการหายขาด และหยุดการดูแลพฤติกรรมต่างๆ กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ จึงทำให้โรคกรดไหลย้อนนั้นกลับมาเป็นใหม่ได้อย่างรวดเร็ว 

ดังนั้นสิ่งที่ควรจะต้องรู้เอาไว้สำหรับผู้ที่เป็นกรดไหลย้อนและต้องการที่จะทำให้อาการต่างๆนั้นดีขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็คือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสียใหม่ เพราะหลายคนยังมีความเข้าใจว่าตัวเองเพิ่งจะมีอาการของโรคกรดไหลย้อนได้ 1-2 วัน หรืออีกนัยหนึ่งก็คือเพิ่งจะเริ่มเป็น 

แต่จริงๆแล้วอาการของโรคกรดไหลย้อนนั้นเกิดขึ้นกับเรามานานแล้ว เพียงแต่ว่าอาการยังมีไม่มากจึงไม่แสดงอาการออกมาให้เราเห็น ซึ่งเราสามารถที่จะสังเกตได้ ก็คืออาการต่างๆที่เกิดขึ้นในบางเวลาหรือบางครั้ง แต่เพียงไม่นานอาการเหล่านั้นก็จะหายไป  หลายคนจะไม่ได้ให้ความสำคัญ จึงยังใช้ชีวิตตามปกติหรือไม่ได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใดๆ  จนวันเวลาผ่านไปและอาการของโรคมีการสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ  จึงแสดงอาการออกมาอย่างชัดเจน 

รักษาอาการกรดไหลย้อนด้วยสมุนไพร Green curmin และ Curma max สามารถเข้าดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ลิงค์ด้านล่างนี้

กรีนเคอมิน
แชร์ให้เพื่อนคุณ
Share on facebook
Facebook
0
Share on google
Google
Share on twitter
Twitter
Share on pinterest
Pinterest
0