สำหรับผู้ที่มีอาการของกรดไหลย้อนหรือโรคกระเพาะนั้น คงจะผ่านการทานยาลดกรดมาแล้วด้วยกันทั้งนั้น
ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายยาของทางแพทย์ที่ไปปรึกษาอาการ หรือบางคนก็ไปซื้อยาเพื่อมารับประทานเอง แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นข้อสงสัยของผู้ที่เป็นโรคกรดไหลย้อนและโรคกระเพาะนั้น ก็คือต้องทานนานแค่ไหนและการทานยาลดกรดจะสามารถทำให้หายจากอาการของโรคกรดไหลย้อนได้จริงๆหรือไม่
วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจว่าเราจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไรบ้าง เมื่อเรามีอาการของโรคกรดไหลย้อน เพื่อเราจะได้ใช้ยาลดกรดอย่างถูกต้อง
มาทำความรู้จักกับยาลดกรดกันก่อน
ยาลดกรด หรือชื่อในภาษาอังกฤษคือ Antacids เป็นกลุ่มยาที่มีหน้าที่ในการปรับสภาพความเป็นกรดในกระเพาะอาหารของเรา พูดง่ายๆก็คือ เมื่อเราทานยาลดกรดเข้าไปนั้น ตัวยาจะทำหน้าที่ไปทำให้กรดที่หลั่งออกมาในกระเพาะของเราเจือจางลง หรือพูดทางหลักวิทยาศาสตร์ก็คือ จะทำหน้าที่ให้กรดในกระเพาะอาหารของเราเป็นกลางนั่นเอง
ยาลดกรดนั้นจะใช้ก็ต่อเมื่อผู้ที่มีอาการของโรคกรดไหลย้อนมีการแสดงอาการบางอย่างเช่น อาการอาหารไม่ย่อย อาการแสบบริเวณกระเพาะอาหาร มีการจุกแน่นบริเวณคอหรือลิ้นปี่
ระยะเวลาในการใช้ยาลดกรดเพื่อรักษา
ระยะเวลาที่ใช้ยาลดกรดเพื่อรักษาอาการของโรคกรดไหลย้อน โดยปกติแล้วแพทย์จะจ่ายยาเพื่อทำการรักษาอาการอยู่ที่ประมาณ 4-8 สัปดาห์ และอาจมากกว่านั้นแล้วแต่ดุลพินิจของแพทย์
การทานยาลดกรดเพื่อรักษาอาการของโรคกรดไหลย้อนและโรคกระเพาะนั้น ในบางรายอาจจะต้องทานยาเคลือบกระเพาะ และยาช่วยย่อย ควบคู่กันไปด้วย
และในบางรายอาจจะต้องมีการตรวจร่างกายส่วนต่างๆประกอบไปด้วย เนื่องจากอาการที่เกิดจากโรคกรดไหลย้อนนั้น มีมากกว่าการจุกแน่นหรือแสบบริเวณกระเพาะอาหาร แต่บางรายอาจจะมีอาการเต้นของหัวใจที่เร็วผิดปกติ ก็อาจจะต้องทำการตรวจคลื่นหัวใจ บางรายมีการกลืนอาหารที่ลำบาก ก็อาจจะต้องทำการส่องกล้อง
คำเตือนของการใช้ยาลดกรด
- ควรแจ้งประวัติการแพ้ยาและอาการแพ้อื่น ๆ แก่แพทย์ก่อนการใช้ยา
- ผู้ที่มีปัญหาโรคตับ โรคไต หรือมีภาวะหัวใจล้มเหลว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ยาทุกครั้ง
- หญิงมีครรภ์ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเพราะยาลดกรดบางตัวอาจมีโซเดียมไบคาร์บอเนต ซึ่งอาจเกิดผลข้างเคียงกับหญิงมีครรภ์
- ไม่ควรรับประทานยาชนิดนี้ติดต่อกันนานเกิน 2 สัปดาห์ ยกเว้นแพทย์สั่ง
- คนที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง ตับแข็ง หรือคนที่ต้องรับประทานอาหารประเภทโซเดียมต่ำ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเนื่องจากยาลดกรดบางตัวมีส่วนผสมของเกลือหรือโซเดียมอยู่มาก
- เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ควรขอคำแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการใช้ยา
- ไม่ควรรับประทานยาลดกรดพร้อมกับยาชนิดอื่นภายใน 2-4 ชั่วโมง เพราะอาจดูดซึมฤทธิ์ยาตัวอื่นจนทำให้ออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มที่
ผลข้างเคียงจากการใช้ยาลดกรด
ยาลดกรดแทบไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงเมื่อรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมและในกรณีที่จำเป็น
แต่บางรายก็อาจเกิดอาการท้องเสีย ท้องผูก ท้องอืด เรอ คลื่นไส้ อาเจียน ขึ้นอยู่กับประเภทและส่วนผสมหลักในการออกฤทธิ์ของยา เช่น ยาลดกรดที่มีแมกนีเซียมอาจทำให้ท้องเสีย ในขณะที่ยาลดกรดที่มีอะลูมิเนียมอาจก่อให้เกิดอาการท้องผูก ส่วนยาลดกรดที่มีส่วนผสมทั้งแมกนีเซียมและอะลูมิเนียมอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงในการขับถ่ายลดลง หรืออาจเป็นไปได้ทั้งอาการท้องผูกและท้องเสีย หากหยุดรับประทานยาแล้วยังพบว่ามีผลข้างเคียงเกิดขึ้นเช่นเดิมควรไปพบแพทย์
รักษากรดไหลย้อนด้วยสมุนไพรธรรมชาติ
จากบทความด้านบนท่านคงจะพอทราบแล้วว่าการทานยาลดกรดนั้นจะต้องทำยังไง ในส่วนตรงนี้เราจะมาพูดคุยกันครับว่าในกรณีถ้าทานยาลดกรดแล้วอาการไม่ดีขึ้นจะต้องทำอย่างไรบ้าง
ก่อนอื่นเลยอยากจะให้ทำความเข้าใจก่อนนะครับว่าโรคกรดไหลย้อนนั้นเป็นโรคของพฤติกรรม ดังนั้นคำว่าพฤติกรรมก็คือการกระทำของเราเอง ซึ่งหลายๆคนไม่สามารถที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองได้ จึงทำให้การรักษาอาการของโรคกรดไหลย้อนหลังนั้นเป็นไปได้อย่างยากลำบาก
เช่น การทานอาหาร โดยปกติแล้วเราจะต้องมีเวลาให้อาหารในกระเพาะอาหารของเรานั้นใช้เวลาในการย่อยและดูดซึมประมาณ 3-4 ชั่วโมง ก่อนที่เราจะเข้านอน ซึ่งตรงนี้บางคนก็สามารถที่จะทำได้ แต่บางคนก็ไม่สามารถที่จะทำได้เพราะอาจจะมีข้อจำกัดบางอย่าง อย่างเช่นอาจจะเลิกงานช้าหรือทำงานดึก
ดังนั้นถ้าเราเข้าใจได้ว่าการรักษากรดไหลย้อนนั้น เราจะต้องทำการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปด้วยระหว่างการรับประทานยาไม่ว่าจะแผนปัจจุบันหรือจะว่ากันด้วยยาเกี่ยวกับสมุนไพร ก็จะทำให้อาการของเราดีขึ้นอย่างชัดเจน
อีกสิ่งหนึ่งที่อยากจะฝากไว้ก็คือระยะเวลาในการรักษานะครับ เพราะแต่ละคนมีอาการของโรคกรดไหลย้อนมากน้อยแตกต่างกัน ดังนั้นระยะการรักษาอาการนั้นจึงไม่สามารถที่จะการันตีได้ว่าภายใน 4-8 สัปดาห์คุณจะมีอาการที่ดีขึ้น
สำหรับผู้ที่มีอาการของโรคกรดไหลย้อนนั้นและมีความสนใจที่จะใช้สมุนไพรในการรักษาอาการสามารถที่จะคลิกที่รูปด้านล่างเพื่อเข้าดูรายละเอียดได้เลยครับ
ปล. ท่านสามารถที่จะทักมาสอบถามหรือปรึกษาอาการได้ที่ไลน์แอดที่ท่านเห็นอยู่ได้เลยนะครับ ขอบคุณครับ
