วันนี้เราจะมาคุยถึง ภูมิแพ้ 2 ประเภทหลัก กัน ในสภาวะที่อากาศแปรปรวนอย่างนี้ บางวันร้อน บางวันฝนตกอากาศเย็น อาจจะส่งผลต่อผู้ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ได้ ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้จึงควรดูแลและระมัดระวังตนเองมากเป็นพิเศษ
วันนี้ลองอ่านบทความหมอแอม ( นพ. ตนุพล วิรุฬหการุญ ) กับสาระน่ารู้ภูมิแพ้กันเพื่อที่จะได้รู้วิธีป้องกันและดูแลสุขภาพของผู้ป่วยจากโรคภูมิแพ้แล้วค่ะ
เราจะมาคุยกันถึงเรื่องภูมิแพ้ วันนี้หมอจะมาเล่าให้ฟังโดยหลักการแพทย์เบาๆหน่อยครับว่าต้องทำยังไง หรือมันมีกี่ชนิด หรือมันเป็นยังไงโอ้ยพูดกันหลากหลาย
คนเป็นเยอะไล่ไปเลยตั้งแต่ ภูมิแพ้ฝุ่น ภูมิแพ้อาหาร แพ้นี่ แพ้นั่น เรียกว่าเป็นยุคสมัยของคนขี้แพ้เลยดีกว่าครับ ยกขึ้นเป็นประวัติการณ์เลยนะนะครับ
อาการภูมิแพ้หลักๆมี 2 แบบ
ภูมิแพ้ในแบบที่ 1 คือภูมิแพ้ที่เป็นและอันตรายและมีอาการเยอะสิ่งกระตุ้นมี 2 อย่างคือ
- 1 จากข้างนอก
- 2 จากข้างในข้างใน
คือการกินเข้าไป คืออาหารการกินต่างๆไม่ว่าจะเป็นกุ้ง เป็นปู เป็นหอย เป็นอะไรกับตามคนเจอเยอะ ไรฝุ่น แมงสาบบ้าง หมาบ้าง แมวบ้าง อะไรประมาณนี้นะครับ และอย่างนี้เวลาเข้าไปและกระตุ้นอาการจะออกเยอะ แสดงเยอะ
อะไรที่หรือภูมิแพ้หนักๆ ส่วนใหญ่มันจะเป็นตั้งแต่เด็กหรือเป็นตลอดชีวิต อาการแพ้ก็ไล่ไปตั้งแต่…
- ไอ จามบ่อย แน่นจมูก
- คันคอ คันตา มีน้ำมูกใส
- ผื่นขึ้นเต็มตัว เจ็บคอ
- หายใจไม่ออก หอบ
ถ้าเป็นมากๆเข้า
ต้องไปโรงพยาบาลให้เขาฉีดยาแก้แพ้
ไม่งั้นตายเหมือนกันนะครับ
กลุ่มเหล่านี้ส่วนใหญ่ไม่ต้องตรวจ คนที่เป็นส่วนใหญ่แล้วเนี่ย มจะรู้ตัวเราเองกินปูไม่ได้นะ ฉันแพ้กุ้งนะ คนแพ้เหล้าก็มีนะ ในการตรวจเราเคยได้ยินอยู่แล้วโดยการเทสในแบบต่างๆ โดยสามารถรู้ได้ชัดเจนว่าแพ้อะไรหลักจากการเทสแล้ว
ภูมิแพ้ในแบบที่ 2 คือพวกภูมิแพ้ที่เกิดมาจากสาเหตุที่หาไม่ได้หาไม่เจอ ไม่รู้เป็นจากอะไร
มาดูอาการกันนะครับ อาการกลุ่มที่ 2 จะกว้างกว่า และชัดเจนน้อยกว่า แพ้เกิดจากในเลือดหรือภูมิแพ้ที่เกิดมาจากเรากินเข้าไปหรือเราอยู่กับสิ่งนั้นนานๆจนเราไม่รู้ตัวจะมีหลายอย่างพวกนี้เราเรียกว่า ภูมิแพ้แอบแฝง
น้ำเหลืองไม่ดี คืออะไร เด็กๆไงยุงกัดแล้วขาลาย รอยช้ำเยอะรอยแผลเป็นมาก สิวขึ้นเยอะๆ ตาดำๆ ใครที่นอนเยอะๆตาดำตลอด คิดไว้เลย ไม่ต้องเป็นเด็กก็ได้….เนี่ยเขาเรียก เลือดไม่ดีแล้วหรือน้ำเหลืองไม่ดี สำหรับภาษาโบราณก็คือการไหลเวียนโลหิตไม่ดี ในเลือดเราไม่ดี มีพิษซ่อนอยู่นะ
พิษซ้อนอยู่เหล่านี้เนี่ยคือสิ่งที่เป็นเรื่องใหญ่ของโลกใบนี้เลยนะเรากำลังจะเข้าไปสู่จุดที่เรียกว่า “อาหาร”
คือไม่ได้แพ้มาตั้งแต่เกิด แพ้ขึ้นมาจาก….
- เราไม่ย่อย
- เรากินมามันเยอะเกินไปหรือเปล่า
- เกิดมาจากลำไส้เราไม่สามารถดูดซึมสิ่งเหล่านี้ได้หลายๆ
ปัจจัยที่เกิดขึ้นทำให้เกิดอาการขึ้นอยู่กับดีกรีความรุนแรงของการเป็น และการตอบสนองของร่างกายเรา และการใส่มันเข้าไป
….ใส่พริกเยอะ
….ใสเปรี้ยวเยอะ
…..กินอะไรเกินพอดีบ่อยๆ
โดยเรามักจะทำประจำเป็นทุกวันโดยที่เราไม่รู้ตัวเกิดการสะสม อาการเหล่านี้จะไม่เหมือนกับภูมิแพ้ในอดีตอาการจะไม่ได้กินปุ๊มมาปั๊บ อาจจะกินวันนี้อีก 3-4 เดือนมาอีก 3-4 อาทิตย์มาอีก 2-3 อาทิตย์มา หรือกินแล้วเกิดอาการขึ้นเลยแต่เราไม่รู้ว่าอาการมันปกติหรือธรรมดาทั่วไป เช่น
- ท้องอืด นี่ก็ใช่
- ท้องเฟ้อ นี่ก็ใช่
- ลมเยอะ นี่ก็ใช่
- พุงป่อง นี่ก็ใช่
- เร่อเยอะ นี่ก็ใช่
- ตดเยอะ ตดบ่อย นี่ก็ใช่
อันนี้เขาเรียกลำไส้เริ่มไม่ย่อย เขาเตือนแล้วแต่เราไม่ค่อยรู้ธรรมชาตินี่ฉลาดนะครับ เข้าใจเราอยู่ตลอดแหละ…ถ้าเราหยุดแล้วเราฟัง…เราจะเห็น…แล้วเราจะหยุดการทำแบบนั้น เราจะแข็งแรงขึ้น
คนที่สุขภาพไม่ดีมายาวนานเราจะไม่ค่อยมีอาการอย่างเช่น คนที่ผลเลือดดีเนี่ย เวลาเรากินอะไรที่มันแพ้เนี่ยเรารู้สึกได้เลยว่าท้องหมอเนี่ยไม่ไหวอ่ะ หมอรู้เลยไม่ดี คนที่รู้ก่อนก็จะได้เปรียบ
อาการภูมิแพ้แบบแฝงยังมีอีกโดยแบ่งเป็นกลุ่มที่มีอาการอักเสบอย่างเช่น
- ปวดหัวไมเกรนทุกวัน เพราะมีเลือดไปเลี้ยงสมองทุกวันแล้วมันอักเสบปวดหัวไมเกรนบ่อย
- ปวดประจำเดือนมากผิดปกติ เมื่อเลือดไปเลี้ยงมดลูกตอนที่จะมีประจำเดือนปวดท้องมากผิดปกติ
- มีสิวขึ้นแล้วไม่หายสักที หรือมีสิวอักเสบเกิดขึ้นบ่อยโดยที่ไม่ได้ไปตากแดดหรือไม่ได้ไปทำอะไรที่ก่อให้เกิดสิว
- หรืออาจจะมีสิวเม็ดเล็กๆเต็มหน้าไปหมดเลยเป็นผื่นลักษณะคล้ายๆสิวอุดตัน
- เป็นสิวแล้วหายยาก
- เส้นผมบางลง
ต่อไปเป็นอาการที่ส่งสัญญาณเหมือนกันคือ
- เหนื่อยง่ายผิดปกติทำไมรู้สึกอ่อนแอจัง
- ทำไมเราถึงน้ำหนักขึ้นเยอะ
- ทำให้รู้สึกอ้วนง่าย
- ทำไมขับถ่ายไม่ปกติ
- ทำไมร่างกายเรามันเป็นหวัดหรือป่วยง่าย
ดังนั้นอาการที่พอจะสามารถบ่งบอกเราได้ว่าเราอาจจะมีอาการแพ้อะไรบางอย่างนั้นสาเหตุหลักๆเลยก็มักจะมาจากอาหารที่เรารับประทานเข้าไปทุกๆวันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดนั่นเอง…..
ดังที่คุณหมอ เคยบอกเอาไว้ว่าการที่เราจะรับประทานอะไรก็แล้วแต่การที่เราทานอาหารที่อยู่ในภูมิภาคหรือประเทศของเรานั้นค่อนข้างจะปลอดภัยมากที่สุดเพราะว่าธรรมชาติได้เลือกแล้วโดยที่จะมีส่วนน้อยมากๆที่จะแพ้อาหารที่เป็นของภูมิภาคหรือละแวกที่ตัวเองกำเนิดขึ้นมา แต่ในสมัยนี้การที่เราเป็นคน Asia แต่ไปทานอาหารเน้นในโซนยุโรปก็เลยทำให้เราเกิดอาการแพ้ขึ้นได้ง่าย
3 กลุ่มหลักที่ก่อให้เกิดการแพ้
- กลุ่มที่แพ้นม คือในบริเวณลำไส้จะไม่สามารถย่อยนมหรือโปรตีนจากนมได้ ในบ้านเรางบประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ จากเด็กเกิด 100 คน โดยหากว่าลูกของเราทานนมแล้วเรารู้สึกว่าลูกเราทำไมยังตัวเล็กอยู่ไม่สูงขึ้นเลยตัวแคระแกรนหรือไม่ฉลาดก็ลองให้งดนมดูสัก 3 เดือนแล้วลองไปเน้นทานเนื้อสัตว์ดู
- แพ้ไข่ เด็กแพ้ไข่ หรือ ผู้ใหญ่แพ้ไข่ ก็กินเข้าไป ก็เหมือนที่หมอบอก อาการส่วนใหญ่ที่หมอเจอ ..ตัวเล็กๆ หน้าอักเสบบ่อย ปวดเมนส์ ปวดหัว หลายสาเหตุ แพ้นมกับไข่มักจะมาคู่กัน ถ้าใครที่มีอาการเหล่านี้แล้วยังไม่ได้มาโรงพยาบาลมาตรวจเลือดดูรองให้หยุดกินนมซัก 3 เดือน ไปดูซิว่าสิวฉันดีขึ้นไหม แข็งแรงขึ้นไหม ระบบย่อยอาหารดีจัง ท้องไม่ผูกแล้ว เหงื่อออกดี หน้าตาแจ่มใสขึ้นคนชมเยอะ นี่แหละก็คือการแพ้
- สารให้ความนุ่มในขนมปัง ( Gluten ) คือสารชนิดหนึ่งที่ทำให้ นุ่มในพวกขนมปัง ในพวกพาสต้า พิซซ่า แป้งฝรั่ง ทั้งหลาย กลุ่มนี้เนี่ยเราก็ถือว่าเมืองไทยมีคนเป็นมากนะครับ
ดังนั้นหากวันนี้เราจะลองหันมาสังเกตดูอาหารที่เราทานในแต่ละมื้อกันอย่างจริงจังแล้วมันอาจจะเป็นคำตอบใกล้ๆตัวที่เราหามานานแสนนานก็ได้ว่าอาการที่มันเกิดขึ้นกับเรานั้นมันเกิดขึ้นเพราะอะไร
อย่างน้อยมันก็เป็นสิ่งที่ง่ายที่สุดที่เราจะสามารถทำได้ก่อนที่เราจะไปพบแพทย์ เพราะการพบแพทย์นั้นบางครั้งก็ไม่ได้เป็นคำตอบสุดท้ายเสียทีเดียว