ผักต้มผลไม้แก้โรคกรดไหลย้อน อะไรกินได้ อะไรกินไม่ได้ อยู่ที่นี่แล้วจ้า

โรคกรดไหลย้อน หรือ GERD นั้นหมายถึงภาวะที่กรดหรือน้ําย่อยในกระเพาะไหลย้อนมาในหลอดอาหาร ทำให้เกิดอาการอักเสบของหลอดอาหาร ผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บหน้าอก แสบร้อน และอาการอื่น

สำหรับคนที่กำลังมองหาการรักษาโรคกรดไหลย้อนนั้นหรือวิธีบรรเทาอาการกรดไหลย้อนเราขอแนะนำวิธีการดังต่อไปนี้คือ

6 ผัก ดูแลกรดไหลย้อน

1 ผักที่มีฤทธิ์เย็น

ก็จะมีบวบหอมต้ม โดยจะมีฤทธิ์เย็นแนะนำให้ทุกคนที่เป็นโรคกรดไหลย้อนให้ทานโดยเฉพาะผู้ที่มีสาเหตุจากกรดเกินในกระเพาะอาหาร โดยให้ทานบวบหอมต้นนั้นจะดีมากเลย และควรทานให้มากในมื้อเย็น บวบหอมต้มนั้นจะช่วย อาการแสบท้อง ร้อนท้อง แสบหน้าอก ปวดท้องเหมือนลำไส้ถูกบิด

2.สีเขียวที่มีกากใยสูง

เช่น ผักหวานบ้าน คะน้า ผักกวางตุ้ง ผักกาดแก้ว หรือผักสลัด ตำลึง ผักบุ้ง บล็อกโคลี่ ตะเกรา นี้ควรทานให้มากในมื้อเช้าและมื้อกลางวันด้วย ควรรับประทานและบริโภคคำเล็กๆ และเคี้ยวให้ละเอียดมากๆ 2-3 นาทีต่อครั้งหนึ่งคำก่อนกลืนผัก ให้ใช้ลิ้นช่วยจัดเรียงให้เป็นชิ้นเล็กๆ แผ่นบางๆ ไม่ให้เป็นก้อนเพื่อเป็นการกระจายกากใหญ่

เพราะกากใยผักช่วย support ดูดซับน้ำตาลส่วนเกินทำความสะอาดลำไส้ ช่วยให้ลำไส้ในการเคลื่อนไหว เปรียบเหมือนเรามีหมอนวด นวดอาหารให้เคลื่อนไหวในลำไส้ บรรเทาอาการท้องผูกให้มีการขับถ่ายและไล่ลมออกทางทวารหนัก หรือการตดนั้นเอง บ่อยครั้งที่ทานผักพวกนี้ลงไปแล้วจะเรอ ไล่ลมขึ้นมาทันทีเลย

ซึ่งอันนี้เป็นคนละอย่างกับการดื่มน้ำแล้วน้ำมาแทนที่ลมจนทำให้เรารื้อออกมา

3.ผักสีเขียวที่ย่อยง่าย

ผักสีเขียวเป็นผักที่ย่อยง่ายเช่น ผักกะหล่ำปลี ผักกาดขาว ดอกกะหล่ำปลี ผักโต้วเหมี่ยว ควรทานให้มากในมื้อเย็น ความพิเศษของกะหล่ำปลี นักวิจัยหลายท่านเห็นด้วยกับการใช้กะหล่ำปลีในการรักษาแผลในกระเพาะอาหารเพราะกะหล่ำปลีจะประกอบด้วย ซันเฟอร์ ซึ่งช่วยในกระบวนการหายของแผล สมานแผล รักษาการอักเสบ ช่วยส่งเสริมผิวหนัง และช่วยกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย ซึ่งข้อมูลนี้ก็คัดลอกมาจาก หนังสือน้ำทิพย์จากธรรมชาติทางลัดเพื่อสุขภาพจากผักและผลไม้ น้ำทิพย์จากธรรมชาติ ทางลัดเพื่อสุขภาพ โดย ทันตแพทย์จักรชัย สมพลพงษ์

4.ผักที่เคี้ยวแล้วเป็นเมือก

ผักเหล่านี้เมื่อเคี้ยวก็จะมีน้ำออกมาคล้ายกับน้ำราดหน้า กระเพาะปลา เช่น ผักปลังผักดอกกระเจี๊ยบ ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายน้ำพริก ผักเหล่านี้เหมาะสำหรับคนที่มีสาเหตุมาจากความเครียด มีกรดเกินไปในกระเพาะอาหารนั้นเอง ควรรับประทานผักเหล่านี้เป็นคำสุดท้ายของมื้ออาหาร เพื่อให้เมือกเหล่านี้ไปเคลือบกระเพาะและลำไส้ป้องกันอาการแสบท้องป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร

5.เม็ดแมงลัก

ซึ่งมีกากใยสูงเหมาะสำหรับดูดซับน้ำตาลส่วนเกิน คำแนะนำจากประสบการณ์ส่วนตัวทานเม็ดแมงลักตอนที่หิวข้าวหรือเริ่มแสบท้องในมื้อเช้า บางครั้งรถติดแต่ถึงเวลาที่ต้องทานอาหารมื้อเช้าแล้ว ก็จะทานเม็ดแมงลักบรรเทาไปก่อน แต่ในช่วงดึกมีอาการหิวแสบท้องขึ้นมาก็จะทานเม็ดแมงลักเป็นการป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร

6.กล้วยน้ำหว้า

ผู้ป่วยเบาหวานไม่ควรจะรับประทานกล้วยน้ำหว้านะครับ ซึ่งจะว่าไปแล้วก็เป็นสิ่งที่ดีมากๆเพราะมีฤทธิ์เย็นในกระเพาะอาหาร และจะมีฤทธิ์ร้อนที่ลำไส้ในการช่วยย่อยอาหาร

คำแนะนำเพิ่มเติมหากโรคกรดไหลย้อนของท่านมีสาเหตุเกิดจากความเครียดมีกรดเกินในกระเพาะอาหาร โดยจะมีอาการแสบท้อง ร้อนท้องร่วมด้วยเป็นต้นแนะนำให้ทานผักสีเขียวควบคู่กับกะหล่ำปลีในส่วนมื้อเช้า 80/20 กลางวัน 50/50 และช่วงเย็น 30/70 มื้อเย็นอย่าลืมบวบหอมต้ม

ผลไม้ดูแลกรดไหลย้อน

แตงไทย
แตงไทยนั้นมีฤทธิ์เย็นเหมาะสำหรับคนธาตุร้อน ที่มีอาการร้อนท้อง กล่าวคือรับประทานแตงไทยแล้วไม่มีอาการจุกที่คอ ไม่มีอาการท้องอืด ก็แสดงว่าแตงไทยนั้นเหมาะกับท่านในการบรรเทาอาการกรดไหลย้อน
คนธาตุร้อนทานแตงไทยแล้วจะสบายท้องมาก แต่คนธาตุเย็นอาจจะมีอาการร้อนท้อง ทานแตงไทยเข้าไปแล้วก็จะจุกที่คอทันที และมีอาการท้องอืดอาหารไม่ย่อยในมือนั้นเลย ต้องหาขมิ้นชันมาทานเพิ่มเติมมากกว่า แล้วรีบไปต้มเนื้อไก่มาทานเพื่อหาโปรตีนทานเพื่อเรียกน้ำย่อย

แคนตาลูป
แคนตาลูปจะมีฤทธิ์เย็นใจ แต่จะเย็นน้อยกว่าแตงไทย ผมทานแล้วสบายท้อง ท้องไม่อืด อาหารย่อได้ดีอาด

ชมพู่
ชมพู่นั้นไม่หวานไม่เปรี้ยวและจะมีกากใยช่วยในการขับถ่าย

ผักและผลไม้ที่ควรหลีกเลี้ยงผู้เป็นกรดไหลย้อน

ผลไม้ที่มีรสหวานทุกชนิด

เช่น ลำไย เงาะ แตงโม ผลไม้เหล่านี้จะมีการมีปริมาณน้ำตาลที่สูง เมื่อรับประทานเข้าไปน้ำตาลในผลไม้ที่มีฤทธิ์เป็นกรดที่ลำไส้เล็กสำหรับบางคนเคยทานแครอทต้มอันนี้ส่งผลให้ท้องอืดเลย ไม่ต้องพูดถึงแครอทสด

ผัก ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวทุกชนิด

มะเขือเทศ แก้วมังกร ฝรั่ง เสาวรส มะนาว เพราะผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวแบบนี้จะมีวิตามินซีสูงมากอยู่ในกระเพาะอาหารที่มีฤทธิ์เป็นกรดทำให้จุกท้องท้องป่องแต่สำหรับคนที่เป็นหนักก็จะมีอาการแสบท้องร่วมด้วย

แล้วทั้งหมดที่ได้นำเสนอมานี้คือผักและผลไม้ ที่ควรทานและควรหลีกเลี่ยง โดยยังไงก็แล้วแต่การทาน ผักต้มผลไม้แก้โรคกรดไหลย้อน แบบให้ได้ผล นั้น ต้องกระทำร่วมด้วยกับการดูแลสุขภาพในแบบองค์รวม ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายหรือการหลีกเลี่ยงจากความเครียดและการพักผ่อนอย่างเพียงพอ

เพราะในชีวิตของคนเรานั้นไม่สามารถที่จะมานั่งทานแต่ผักหรือผลไม้อย่างเดียวเพื่อทำการรักษาอาการของโรคต่างๆได้

สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการของโรคกรดไหลย้อน ไม่ว่าจะเป็นระยะเริ่มต้นหรือระยะเรื้อรังหากท่านทำการรักษาอาการมานานแล้วและไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นผมแนะนำให้ลองทาน Green curmin และ Curma Max เพื่อทำการรักษาโรคกรดไหลย้อนและโรคกระเพาะ โดยสามารถกดเข้าดูรายละเอียดที่ลิงค์นี้ได้เลย กดเพื่อเข้าดูรายละเอียดเพิ่มเติม

Cr.https://www.youtube.com