โรคกรดไหลย้อนปล่อยไว้เสี่ยง“มะเร็ง”
โรคกรดไหลย้อน เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติที่เกี่ยวกับการมีกรดในกระเพาะอาหาร ไหลขึ้นมาสู่หลอดอาหาร มีอาการคล้ายโรคกระเพาะแต่โรคกรดไหลย้อนมีสาเหตุมาจากการทำหน้าที่ของกล้ามเนื้อหูรูดส่วนล่างของหลอดอาหารหย่อนตัวลงทำให้มีน้ำย่อย หรือกรดสามารถไหลย้อนขึ้นไปที่หลอดอาหารได้
ซึ่งโดยปกติเมื่อกลืนอาหารลงไปแล้วหูรูดจะทำหน้าที่คลายตัวเพื่อเปิดทางให้อาหารไหลผ่านลงไปในกระเพาะอาหารได้ เมื่อผ่านลงสู่กระเพาะอาหารแล้วหูรูดจะหดรับเพื่อปิดกั้นไม่ให้น้ำย่อยในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นไปที่หลอดอาหารคล้ายประตูกั้นไม่ให้อาหารหรือกรดด่างย้อนเข้าไปในหลอดอาหารได้
สาเหตุสำคัญของการเกิดโรคกรดไหลย้อนคือมีพฤติกรรมการบริโภคที่ไม่เหมาะสม เช่น ตื่นเช้าแล้วรีบไปทำงาน รับประทานอาหารไม่เป็นเวลา กินแต่ชากาแฟน้ำอัดลม ช็อคโกแลต สูบบุหรี่ รับประทานอาหารมื้อเย็นแล้วนอนทันทีไม่รอระยะเวลาให้อาหารเคลื่อนที่ผ่านกระเพาะอาหารซึ่งใช้ระยะเวลาประมาณ 3 ชั่วโมงทำให้เกิดเป็นโรคกรดไหลย้อนได้
ส่วนอาการที่บ่งชี้ว่าเป็นโรคกรดไหลย้อนที่เป็นสัญญาณอันตรายได้แก่ มีอาการกลืนลำบาก กลืนเจ็บคอ อาเจียนบ่อยๆ น้ำหนักลด และอาเจียนเป็นเลือด หรือมีอาการซีดควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน
เพราะหากปล่อยไว้เป็นระยะเวลานานจะกลายเป็นเรื้อรังและมีภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ทำให้หลอดอาหารส่วนปลายมีการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ซึ่งอาจนำไปสู่การเป็นมะเร็งในหลอดอาหารส่วนปลายได้แห่งอนาคต
โรคกรดไหลย้อนเนี่ยมันจะทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังทั้งหมดบริเวณหลอดอาหารและบริเวณกล่องเสียง ซึ่งถ้าเกิดอาการเรื้อรังเป็นระยะเวลานานๆอาจจะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์มะเร็งได้ ถามว่าเยอะไหมไม่เยอะมากประมาณ 1- 6 เปอร์เซ็นต์ค่ะ
สำหรับการรักษาผู้ป่วยที่เป็นกรดไหลย้อนนะคะ ก็คือ
อันดับ 1 เลยคือต้องคลุมการรับประทานอาหารก่อน อาหารประเภท เปรี้ยวเผ็ดหรือจำพวก ชา กาแฟ น้ำอัดลม เหล้า เบียร์ ของมัน ของทอด ขนมเค้ก ช็อกโกแลต โกโก้ นะคะ
เวลารับประทานอาหารเสร็จแล้วไม่ควรล้มตัวลงนอนควรเว้นระยะเวลาประมาณอย่างน้อย 3 ชั่วโมง
สำหรับกรณีที่คนไข้แบบมีการเปลี่ยนแปลงเป็นมะเร็งแล้วนอกจากการคุมอาหารแล้ว การรักษาหลักเลยก็คือการใช้การผ่าตัด แต่ถ้าเกิดมะเร็งในระยะหลังหลังลังเนี่ยอาจจะต้องใช้วิธีการฉายแสงแล้วก็ใช้เคมีบำบัดโรคด้วยค่ะ การเกิดมะเร็งจากโรคกรดไหลย้อนส่วนใหญ่จะเกิดที่หลอดอาหาร สำหรับคนไข้ที่มีการอักเสบลุกลามขึ้นไปที่บริเวณกล่องเสียงก็มีโอกาสเพิ่มปัจจัยเสี่ยงในการเป็นมะเร็งที่บริเวณกล่องเสียงได้ แต่ว่าไม่ได้เยอะมาก ส่วนใหญ่มักจะเกิดจากพวกที่ทานเหล้าเบียร์ หรือบุคคลที่สูบบุหรี่ จะเยอะกว่า
สำหรับการสังเกตตัวเองนะคะ ว่าจะเป็นโรคกรดไหลย้อนหรือเปล่านั้นก็คือ มันจะมีอาการแสบคอเรื้อรัง มีอาการเรอเปรี้ยว หรือว่ามีอาการไอเรื้อรัง มีอาการแสบร้อนบริเวณหน้าอก หรือว่าอาการเป็นมากขึ้นหลังจากที่เราทานอาหารไปแล้ว อาจารย์มันไม่ดีขึ้นก็ควรจะมีวิธีสังเกตนิดนึงว่ามันรุนแรงไปจนเป็นมะเร็งหรือยังคะ
สำหรับคนที่เป็นมะเร็งอาจจะมีอาการมากกว่านี้อย่างเช่น มีอาการกลืนลำบาก ไอเป็นเลือด หายใจหอบเหนื่อย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ถ้ามีอาการออกมาควรรีบไปพบแพทย์เลยค่ะ
(อ.พญ.นวรัตน์ อภิรักษ์กิตติกุล ได้กล่าวไว้ )
การป้องกันโรคกรดไหลย้อนคือควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตในแต่ละวันให้เหมาะสม โดยการดูแลเรื่องการบริโภค การรับประทานอาหาร ครบทุกมื้อมื้อละไม่ต้องมาก แค่พออิ่มไม่แน่นจนเกินไป หรือให้มีอาหารในกระเพาะอย่างสม่ำเสมอ ร่างกายจะย่อยอาหารได้หมด และก่อนนอน 2-3 ชั่วโมงควรงดอาหารและควรหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เป็นช่องทางของการเกิดโรคกรดไหลย้อนเช่น ลดชา กาแฟ และของหมักดอง น้ำอัดลม และ งดสูบบุหรี่ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ร่างกายเสียสุขภาพและก่อให้เกิดโรคมะเร็ง ที่สำคัญควรต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อสุขภาพร่างกายจะแข็งแรงมีภูมิคุ้มกันสูงสามารถต้านทานโรคได้
บทความยอดนิยม